อาหารเสริม กิฟฟารีน เลซิติน Giffarine Lecithin
นวัตกรรมใหม่ ล้างพิษตับ ขับของเสีย
ฟื้นฟูตับแบบถาวร ไร้ผลข้างเคียง ยุติปัญหาตับอักเสบได้ตรงจุด
ด้วยสารสกัดจากธรรมชาตินำเข้าจากสหรัฐอเมริกา พิสูจน์แล้วเห็นผลจริง
การันตีผู้รับประทาน 95% ค่าตับลดลง พึ่งพอใจกับผลลัพธ์และกลับมาซื้อซ้ำ
▶️ กำลังมีปัญหาไขมันพอกตับ
▶️ มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ A B C D ในร่างกาย
▶️ มีอาการตับอักเสบ หรือ ตับอักเสบเรื้อรัง
▶️ ใช้ยาที่มีผลต่อตับติดต่อกันเป็นเวลานาน
▶️ ชอบทานอาหารรสจัด ปิ้งย่าง ไขมันสูง คอเลสเตอรอลสูง
▶️ น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เป็นโรคอ้วน
▶️ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
▶️ ทำงานหนัก เครียด นอนน้อย
▶️ ตาเหลือง ตัวเหลือง ดีซ่าน
▶️ มีอาหารเจ็บบริเวณใต้ชายโครงขวา
▶️ อ่อนเพลีย ง่วงนอนเป็นประจำ พักผ่อนเท่าไรก็ไม่พอ
▶️ มีผื่นขึ้น หรือมีจ้ำแดงๆตามร่างกาย
▶️ จุกแน่นท้อง อาหารไม่ย่อยเป็นประจำ
▶️ ภูมิต้านทานต่ำ แพ้ง่าย
▶️ มือบวม เท้าบวม ท้องบวม
▶️ เหนื่อยหอบง่าย
▶️ นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึกบ่อยๆ
▶️ เบื่ออาการ ทานแล้วอาเจียนเป็นประจำ
▶️ ท้องผูก ถ่ายยาก
คุณรู้หรือไม่?
23% ของคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคตับไวรัสตับอักเสบ A B C D ไขมันพอกตับ ตับแข็ง และมะเร็งตับ
30% ของคนทั่วไปมีภาวะไขมันพอกตับ
70% ของคนอ้วน จะมีภาวะไขมันพอกตับ
80% ของผู้ป่วยเบาหวานมีภาวะไขมันพอกตับและมีโอกาสเสียชีวิตจากตับบแข็ง
95% ของคนอ้วนที่ดื่มสุราจะมีภาวะไขมันพอกตับและมีโอกาสสูงที่จะเป็นตับอักเสบและตับแข็ง
องค์การอนามัยโลก WHO จัดอันดับประเทศไทยเป็นประเทศที่เสียชีวิตด้วยมะเร็งตับเป็นอันดับ 8 ของโลก!!
ค่าเอนไซม์ในตับ SGOT, SGPT สูงเกินกว่าปกติ เป็นเครื่องบ่งชี้ให้เห็นว่าคุณกำลังตกอยู่ในภาวะโรคตับ ซึ่งโดยปกติ ค่าเอนไซม์ในตับ SGOT,SGPT จะต้องไม่เกิน 40 และโรคไขมันพอกตับ ไวรัสตับอักเสบ A B C D จะไม่ค่อยแสดงออกทางอาการชัดเจน มักจะรู้ก็เมื่อเข้าสู่ภาวะตับอักเสบเรื้อรังแล้ว ซึ่งตับอักเสบเรื้อรังเป็นสาเหตุของตับแข็งและมะเร็งตับ เมื่อปล่อยให้เรื้อรังเกิน 6 เดือน
| สิ่งที่ตรวจ | ค่าปกติ | ค่าที่ผิดปกติ | อาการ |
|---|---|---|---|
| SGOT หรือ AST | น้อยกว่า 40 U/L | ค่าสูงเกินกว่า 40 U/L | การอักเสบของตับ |
| SGOT หรือ AST | น้อยกว่า 40 U/L | ค่าสูงเกินกว่า 40 U/L | การอักเสบของตับ |
| บิลิรูบิน (Bilirubin) | น้อยกว่า 1.0 mg/dl | ค่าเกิน 1.0 mg/dl | ตับผลิตน้ำดีผิดปกติ ตาเหลือง ตัวเหลือง ดีซ่าน |
| อัลบูมิน (Albumin) | 3.5-5-5 g/dl | ค่าต่ำกว่า 3.5 g/dl | มือเท้าบวม ท้องมาน ตับผลิตอัลบูมินผิดปกติ |
| อัลคาไลน์ฟอสฟาเตส (Alkaline Phosphatase) | น้อยกว่า 120 U/L หรือ ค่าปกติของแต่ละที่ | สูงกว่า 120 U/L หรือสูงกว่า ค่าปกติของแต่ละที่ | เกิดการไหลเวียนน้ำดีอุดตัน มีก้อนเนื้อแทรกระหว่างเนื้อตับ หรือมะเร็งตับ |
ผลลัพธ์ที่คุณจะได้เมื่อรับประทาน กิฟฟารีน เลซิติน
- ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร้า ไม่เหนื่อยง่าย
- ลดการอักเสบของตับ ต่าตับ SGOT,SGPT ลดลง หากทานผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ
- ตับแข็งแรงขึ้น สร้างภูมิคุมกันเชื้อไวรัสตับอักเสบ A B C D
- ลดอาการไขมันพอกตับ สลายไขมัน ไตกลีเซอไรด์ ไม่ให้ไปเกาะที่ตับ
- ลดไขมันเลว LDL และ เพิ่มไขมันดี HDL
- อาการเจ็บชายโครงดีขึ้น
- อาการท้องอืดลดลง หรือหายไป
- อาการตัวเหลือง ดีซ่าน หายไป
เลซิติน (Lecithin) เป็นไขมันในกลุ่มฟอสโฟไลปิด (Phospholipid) ซึ่งอุดมด้วย สารฟอสฟาทิดิล โคลีน (Phosphatidyl choline) ที่มีคุณสมบัติเข้ากันได้กับทั้งน้ํา และน้ํามัน ถือเป็นตัวทําละลายที่ดี ช่วยในการทําละลาย โคเลสเตอรอลในเลือดให้แตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กๆ จึงลดการสะสมของไขมันที่ตับและลดการสะสมของไขมัน ในผนังหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติ ของเลซิติน
- ดูแลตับ มีส่วนช่วยปกป้องตับจากการเกิดภาวะไขมันพอกตับ บํารุงตับ ป้องกันตับอักเสบ ป้องกันตับแข็ง
- บํารุงสมอง ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ เสริมสร้างความจํา และ ลดอาการอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้น
- ดูแลหลอดเลือดและหัวใจ ละลายไขมัน ป้องกันการตกตะกอนของไขมันในพนังหลอดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุที่ทําให้หลอดเลือดแข็งและตีบตัน ป้องกันการเกิด อัมพฤกษ์ อัมพาต
- ลดการดูดซึมโคเลสเตอรอล ลดระดับโคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ได้ถึง 50%
- ลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ําดี
- ช่วยลดน้ําหนัก ลดไขมันสะสม โดยช่วยละลายไขมัน จึงเผาผลาญไขมันได้ดี
ตามปกติแนะนําให้ “ทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหารเวลาใดก็ได้” แต่ในบางรายสามารถเพิ่มปริมาณการทาน เป็นวันละ 2 เม็ดได้ ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
เนื่องจากเลซิตินที่สกัดจากถั่วเหลือง มีความเป็นสมุนไพรน้อยมาก “จึงสามารถทานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย และไม่มีผลกระทบต่อยาหรือโรคใดๆ ทั้งนี้ ไม่แนะนําในสตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร เนื่องจากเป็นข้อห้ามตามหลักการทั่วไป ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่สามารถแนะนําในเด็กอายุ 15 ปีขึ้นไปได้
FAQ | คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ เลซิติน ( Lecithin )
เลซิตินของกิฟฟารีนสกัด และนําเข้าจากประเทศอะไร?
เลซิตินพบมากในถั่วเหลือง, ถั่วลิสง, ไข่และตับแต่จะพบมากที่สุดในถั่วเหลือง “โดยเลซิตินที่กิฟฟารีนเลือกใช้นั้น นําเข้าจาก อเมริกา และ สกัดจากถั่วเหลือง” ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพ ได้ดีกว่าแหล่งอื่นๆ เนื่องจากมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด
เปลือกแคปซูลของเลซิตินทำมาจากอะไร?
“แคปซูลแบบนิ่ม” ทํามาจากเจลาตินซึ่งสกัดจากกระดูกและชั้นไขมันใต้ผิวหนังของวัว ที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และผ่านการรับรองจากอย. ว่ามีมาตรฐาน ปลอดภัย สามารถรับประทานได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ
เลซิตินมีวิธีการเก็บรักษา อย่างไรบ้าง?
แนะนําให้จัดเก็บ “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชนิดแคปซูลนิ่ม 1 (โดยเฉพาะเลซิติน) ไว้ในตู้เย็น (ช่องธรรมดา) เพื่อรักษาสภาพผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด
ในการรับประทานเลซิติน มีข้อห้ามข้อควรระวังหรือไม่?
เนื่องจากเลซิตินที่สกัดจากถั่วเหลือง มีความเป็นสมุนไพรน้อยมาก “จึงสามารถทานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย และไม่มีผลกระทบต่อยาหรือโรคใดๆ ทั้งนี้ ไม่แนะนําในสตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร เนื่องจากเป็นข้อห้ามตามหลักการทั่วไป ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่สามารถแนะนําในเด็กอายุ 15 ปีขึ้นไปได้
เลซิตินเหมาะสําหรับคนกลุ่มไหนบ้าง?
- ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับ การทํางานของตับไม่ปกติ เช่น การย่อยอาหารไม่ดี แน่นท้อง จุกเสียด เป็นประจํา อ่อนเพลียง่าย
- ผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบ บี และซี • ผู้ที่ดื่มเหล้าเป็นประจํา
- ผู้ที่ต้องการการบํารุงตับ ผู้สูงอายุ (50 ปีขึ้นไป)
- ผู้ที่มีโรคประจําตัว หรือมีประวัติคนในครอบครัว ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็น โรคเกี่ยวกับตับ ไขมันพอกตับ เบาหวาน อ้วน โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็ง ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โคเลสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง
แนะนําให้ทานเลซิติน วันละกี่แคปซูล?
ปกติแนะนําให้ “ทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหารเวลาใดก็ได้” แต่ในบางรายสามารถเพิ่มปริมาณการทาน เป็นวันละ 2 เม็ดได้ ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ผู้ที่แพ้ถั่วเหลืองสามารถรับประทานได้หรือไม่?
เนื่องจากเลซิตินของกิฟฟารีน “จะสกัดเฉพาะเลซิตินออกมาจากถั่วเหลือง จึงมีโปรตีนอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดการแพ้น้อยมาก” เช่นเดียวกันกับ สารกลุ่มไอโซฟลาโวน หรือสารคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนจากถั่วเหลือง ทั้งนี้ ในผู้ที่มีความกังวลใจ หากลองทานแล้วมีอาการแพ้ เช่น มีอาการบวม พื้น หายใจไม่ออก ให้หยุดทาน หรือในผู้ที่ไวต่อสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้มากๆ หรือแพ้รุนแรง แนะนําให้หลีกเลี่ยง
